ดูเหมือนบริการ PayLater หรือ ‘ใช้ก่อน จ่ายทีหลัง’ จะเริ่มแพร่หลายในประเทศไทยมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากล่าสุด Grab ตัดสินใจเปิดตัว ‘PayLater by Grab’

 

 

ในประเทศไทย ให้ผู้ใช้สามารถ “ใช้จ่ายก่อน แล้วค่อยจ่ายบิลในเดือนถัดไป” เป็นอีกทางเลือกในการใช้จ่าย

โดยบริการของ Grab ในไทยที่สามารถใช้ PayLater ได้ ประกอบด้วย

– บริการเดินทาง (Transport)

– บริการสั่งอาหาร (Food)

– บริการซื้อสินค้า (Mart)

– บริการจัดส่งพัสดุ (Express)

ทำให้ปัจจุบันช่องทางชำระเงินของ Grab ประเทศไทยจะมี

– เงินสด

– GrabPay Wallet

– Credit/Debit Card

– PayLater by Grab

โดยกว่า 2 ใน 3 ของผู้บริโภคปัจจุบันเลือกวิธีการใช้จ่ายแบบไม่ใช้เงินสด

ฝั่งผู้บริหาร Grab ประเทศไทยอย่าง ‘วรฉัตร ลักขณาโรจน์’ กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย อธิบายว่า จากรายงาน e-Conomy SEA 2022 ปัจจุบันบริการชำระเงินออนไลน์ (Digital Payment) ในประเทศไทยในปี 2022 มีมูลค่าราว 1.13 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ และคาดว่าจะเติบโตขึ้น 12% ในปี 2025

หนึ่งในบริการที่ได้รับความนิยมสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง คือ บริการใช้ก่อนจ่ายทีหลัง (Buy Now, Pay Later) ที่เป็นทางเลือกในการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายให้ผู้บริโภค

โดยบริการ PayLater by Grab มีรายละเอียดตามนี้

– จ่ายทีหลังแบบรวบยอดเดียวในเดือนถัดไป (Post-Paid)

– เลือกชำระล่วงหน้าหรือชำระอัตโนมัติเมื่อครบกำหนดในเดือนถัดไป

– มีการสรุปค่าใช้จ่าย วงเงินคงเหลือ และวันกำหนดชำระบิล

– ระบบจะกำหนดวงเงินตามประวัติการใช้จ่าย

– ยืนยันไม่มีดอกเบี้ย ไม่มีค่าธรรมเนียมแฝง

– หากมียอดค้างชำระเกินกำหนด บัญชี PayLater จะถูกระงับชั่วคราวจนกว่าจะชำระ

– มีค่าติดตามทวงถาม 53.50 บาท สำหรับการเรียกเก็บเงินค้างชำระแต่ละรายการที่เกิน 1,000 บาท